นมทดแทนในลูกกำพร้า
สิ่งที่เราควรจะรู้ก่อนการเลือกนมทดแทนนมแม่ คือความต้องการของลูกสัตว์ ดังนี้
ตารางที่ 1 ยกตัวอย่างความต้องการสารอาหารของลูกสัตว์กำพร้าก่อนหย่านมบางชนิด
ชนิดสัตว์
|
ของแข็ง(%)
|
โปรตีน (%solid)
|
ไขมัน(%solid)
|
คาร์โบไฮเดรต(%solid)
|
Hedgehog
|
21.6
|
33.3
|
46.3
|
9.3
|
Rabbit
|
31.2
|
32.0
|
49.0
|
6.0
|
Grey Squirrel
|
39.6
|
18.7
|
62.5
|
9.4
|
Ferret
|
23.5
|
25.5
|
34.0
|
16.2
|
Water Shrew
|
35.0
|
28.6
|
57.1
|
0.3
|
Mouse
|
29.3
|
31.0
|
45.0
|
10.0
|
จากตารางก็จะเห็นได้ว่า สัตว์แต่ละชนิดนั้นมีความต้องการที่แตกต่างกันไป แล้วจะเลือกอาหารแบบใดให้จึงจะเหมาะสำหรับทดแทนลูกกำพร้า หรือหย่านมเร็วกว่ากำหนด
ที่นี้ลองมาพิจารณาแหล่งอาหารทดแทนนมแม่ ที่เราเคยได้ยินมา และที่ใช้กันอยู่ ในนี้ผมรวมเอานมแพะ และซีรีแลคสำหรับเด็กที่ใช้กันบ่อยๆ เข้าไปด้วย
ตารางที่ 2 แสดงสารอาหารในแหล่งอาหารต่างๆ
ชนิดอาหาร
|
ของแข็ง(%)
|
โปรตีน (%solid)
|
ไขมัน(%solid)
|
คาร์โบไฮเดรต(%solid)
|
นมแพะ
|
12
|
22
|
32
|
39
|
Esbilac
|
97
|
33.2
|
43.0
|
15.8
|
Multi milk
|
97
|
30.0
|
55.0
|
น้อยมาก
|
Lamlac
|
60
|
24
|
24
|
-
|
Cerelac
|
-
|
15
|
9.0
|
68.62
|
พอจะเห็นข้อแตกต่างกันไหมครับ เราควรจะเลือกสูตรที่มีความใกล้เคียงกับความต้องการของลูกสัตว์ของเรา
Esbilac เป็นนมทดแทนสำหรับลูกสุนัขที่กำพร้า ยังมีอีกตัวที่นิยมคือ KMR หรือ Kitten Milk Replacer ใช้ทดแทนในแมว ซึ่งสามารถนำมาใช้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในกลุ่มพวกกินแมลงได้ดี สองชนิดนี้นิยมเลือกเป็นชนิดแรกๆ หาซื้อตามคลินิกรักษาสัตว์ได้ ส่วน Multi milk และ Lamlac ไม่แน่ใจว่าเมืองไทยมีหรือไม่ ส่วนนมแพะนั้นมีปริมาณโปรตีนและไขมันต่ำกว่าความต้องการ แต่ยอมรับในการนำมาใช้ได้ โดยต้องผสมกับไวตามินหรือแร่ธาตุเสริมอื่นๆ ซึ่งจะกล่าวต่อไป บางบริษัทได้นำมาปรับปรุงสูตรเพิ่มเติม จนเป็นนมทดแทนสำหรับลูกสัตว์โดยเฉพาะก็มี ส่วนอาหารทดแทนสำเร็จที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น มีส่วนผสมของไวตามิน แร่ธาตุแตกต่างกันไป
ส่วนซีรีแลคนั้น ไม่เหมาะสำหรับในการนำมาเลี้ยงลูกสัตว์กำพร้าเลย เนื่องจากอะไร...
เพราะปริมาณโปรตีน ไขมันต่ำกว่าความต้องการมาก และที่สำคัญคือปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูงกว่าความต้องการมหาศาล และเป็นสาเหตุให้ลูกสัตว์มีอาหารย่อยอาหารไม่ดี และท้องเสียทั้งแบบไม่ติดเชื้อ และติดเชื้อแทรกซ้อนได้ เนื่องจากองค์ประกอบส่วนใหญ่ของซีรีแลคนั้นมาจากแป้งข้าว หรือข้าวสาลี และมีหางนม น้ำตาลซูโครส ปาล์ม น้ำมันข้าวโพด แคลเซียมคาร์บอเนต ไวตามินต่างๆ ธาตุเหล็ก วานิลลิน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ซีรีแลคสามารถนำมาเป็นอาหารเสริมหลังจากหย่านมไปแล้วเท่านั้น และก็ยังเห็นว่าไม่จำเป็นสำหรับสัตว์
ในการใช้นมแพะนั้น แนะนำให้ผสมรวมกับสารเสริมอื่นๆ(Additives for milk replacer) ซึ่งปัจจุบันทำขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่นAbidec เป็นไวตามินรวมสำหรับผสมนมแพะโดยตรง บ้านเรายังไม่มี หรือจะผสมกับโปรไบโอติก เพื่อป้องกันอาการท้องเสีย ช่วยให้เกิดการเจริญเติบโตที่ดี พวกเอนไซม์ รวมทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งผลิตมาเฉพาะ และมีวางจำหน่ายแล้วทั้งนั้น
หากลูกสัตว์หย่านมเร็วมาก และได้รับนมน้ำเหลือง(Colostrum) ไม่เพียงพอ... เอ๊ะ อะไรคือนมน้ำเหลือง แล้วนมน้ำเหลืองมีคุณค่าอะไร จำเป็นด้วยหรือ...
นมน้ำเหลือง คือน้ำนมที่ขับออกมาในระยะแรกๆ ของการให้นม จะยาวสั้นแล้วแต่ชนิดสัตว์ บางชนิดไม่ทันข้ามวัน เช่นพวกสัตว์เคี้ยวเอื้อง บางชนิดข้ามเดือน ในนมน้ำเหลืองนั้น นอกจากมีคุณค่าทางอาหารที่สมบูรณ์ที่สำคัญต่อการมีชีวิตรอดของลูกสัตว์อย่างยิ่งยวดแล้ว ในนั้นยังมีภูมิคุ้มกันต่อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ถ้าหากลูกสัตว์ไม่ได้รับ หรือรับไม่พอเพียง ก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคและตายได้ง่าย...
ในลูกสัตว์ที่ได้รับนมน้ำเหลืองไม่พอนั้น ในนมแพะหรืออาหารที่กล่าวมาอื่นๆ จึงอาจจะต้องเพิ่มน้ำนมเหลืองทดแทนเข้าไป ที่ผลิตกันออกมาได้แก่ Prolam เป็นนมน้ำเหลืองสำหรับสัตว์กินพืช และ Kitten colostrum substitute สำหรับสัตว์พวกกินแมลงและกินเนื้อ บ้านเราก็คงจะยังไม่มี หรือหายากเต็มที
แต่ก็มีคำถามอีกว่า จะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกสัตว์ยังคงต้องการนมน้ำเหลืองอยู่หรือไม่ เมื่อไรหยุดนมน้ำเหลืองได้ และเมื่อไรหยุดกินนม หรือหย่านมได้?
เราต้องรู้จักสัตว์เลี้ยงของเราให้ดีว่าเขาต้องการอะไร หากลูกสัตว์เกิดจากการผ่าตัด โดยปกติอย่างน้อยควรจะได้รับจากเต้านมของแม่1 วัน ลูกสัตว์เคี้ยวเอื้อง เมื่อตกลูกแล้วก็ควรจะได้รับในทันที 8 ชั่วโมงแรก แต่ก็มีหลายชนิดที่ต้องการระยะยาวนานกว่านั้น เช่นหนู ต้องการนมน้ำเหลืองนานถึง 16 วัน เม่นแคระนานกว่านั้นคือ 41 วัน แม้จะมีรายงานว่าเม่นแคระและสัตว์ใกล้เคียงทั้งหลาย ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับเลย
หากลูกต้องกำพร้า การให้นมน้ำเหลืองจึงมีความสำคัญ โดยให้ได้ดังนี้
ในวันแรก และวันที่สอง หลังคลอด ผสมนมน้ำเหลืองและนมทดแทนนมแม่อย่างละ 50:50
และหลังจากนั้น ส่วนผสมลดลงเป็น 25:75
ให้จนกระทั้งหย่านม ในเม่นแคระหย่านมได้ที่อายุ 21 วัน หรือเริ่มมีฟันขึ้น เราตรวจดูหรือคลำได้ จากทั้งภายนอกและภายในช่องปาก สามารถหย่านมได้ และเริ่มเปลี่ยนให้อาหารอื่น แต่ถ้าจะให้ดีควรให้นมต่อไปจนถึงอายุเดือนครึ่งโดยประมาณ (5-7 สัปดาห์) โดยธรรมชาติแม้จะหย่านมเองแล้ว (แม่ไม่ยอมให้ดูดนม) ก็ยังไม่ควรจะแยกลูกออกจากแม่ ควรให้พักและเรียนรู้ด้วยกันต่อ 1-2 สัปดาห์ จึงเห็นว่าคนขายมักจะแยกแม่ลูกก่อนวัยอันควร และเอามาขายให้เรา หากจะเลือกมาเลี้ยงก็ขอให้ดูฟันเป็นเบื้องต้น ว่าได้รับนมน้ำเหลืองครบวันหรือยัง หลังจากนั้นก็เดาไว้ก่อนว่าอาจจะยังอยู่ในระยะให้นมทดแทน
มาศึกษาในเม่นแคระกันให้ชัดๆ ให้สมกับที่คนกลุ่มนี้เป็นคนตั้งคำถาม
นมทดแทนที่ดีที่สุดสำหรับเม่นแคระ (ณ ปัจจุบัน) คือ Esbilacทำการผสม Esbilac กับนมน้ำเหลืองอย่างละ 50:50 (หากไม่มียี่ห้อที่กล่าวถึง ลองสอบถามตามคลินิกครับ อาจจะมียี่ห้ออื่นๆ ทดแทนกันไป) ใน 24-48 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้น เปลี่ยนอัตราส่วนเป็น 25:75 คือนมน้ำเหลือง 25 เปอร์เซ็นต์ ไปอีก 19 วัน (ควรจะได้รับนมน้ำเหลืองไปจนถึง 21 วันหากทำได้) จึงเปลี่ยนมาให้ Esbilac 100%
การป้อนโดยใช้ไซริงค์ขนาด 1 ซีซี ต่อเข้ากับยางของเข็มขนาด16G ที่ส่วนปลาย ก็เป็นเครื่องมือป้อนนมที่ดี โดยค่อยๆ ให้ เพราะเม่นแคระจะดูดช้าในระยะแรก และดูดซึมในทางเดินอาหารช้า ควรให้ทุก 2-3ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน อย่าปล่อยให้หิวหรือทิ้งระยะเวลาห่างกว่านั้น เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น 50 กรัม ให้ห่างขึ้นเป็น 3-4 ชั่วโมง และเมื่อ100 กรัม หรือมากกว่านี้ ก็เหลือเพียงวันละ 4 ครั้งก็พอ จะเห็นว่าการดูแลสัตว์กำพร้าเป็นงานที่หนักเอาการ
ให้จนกว่าฟันจะขึ้นมากพอที่จะกินอาหารอย่างอื่น หรือจนกว่าอายุเดือนครึ่งเป็นอย่างน้อย ซึ่งเรามักจะเรียกว่าเป็นระยะหย่านมจริงๆ หรือเรียนรู้การกินอาหาร โดยสามารถหัดให้กินได้นับแต่หยุดนมน้ำเหลือง พร้อมๆ กับการกินนมทดแทน ไม่ควรหยุดนมในทันที
ดังนั้น หากเราไปซื้อลูกสัตว์มา และไม่แน่ใจว่าหย่านมหรือถึงเวลาที่ควรจะแยกจากแม่หรือยัง ทั้งที่ฟันขึ้นแล้ว ควรให้นมทดแทนดังกล่าวได้เลย และลองให้กินอาหารอื่นๆ ไปพร้อมๆ จนกว่าเขาจะกินอาหารหลังหย่านมได้เอง ในปริมาณที่พอเพียง
อาหารหย่านมนั้นค่อยมาว่ากันอีกทีครับ เชื่อว่าผู้เลี้ยงนั้นคงรู้จักกันอย่างกว้างขวางแล้ว
โดย หมอแก้ว(ผศ.น.สพ.สมโภชน์ วีระกุล)
ที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะมีผู้สอบถามผ่านคุณหมาป่าของเรา และส่งผ่านคำถามนั้นมาที่ผม มีดังต่อไปนี้
1. ควรให้นมอะไรเพื่อใช้แทนนมมารดา
2. ได้ยินมาว่าบางคนใช้นมแพะในการเลี้ยงดู อยากทราบถึงความเป็นไปได้ และข้อดีและข้อเสีย
3. เมื่อเปรียบเทียบกับซีรีแลค แล้วในเชิงข้อมูลทางโภชนาการให้ผลเป็นอย่างไร
4. นมแพะที่บรรจุกล่อง (ยี่ห้อศิริชัย) ใช้แทนได้หรือไม่
5. อยากทราบถึงข้อมูลในการดูลูกเม่น ที่สามารถขายได้ (เพื่อการเป็นข้อมูลในการเตือนผู้ที่ถูกหลอกขายเม่นยังไม่หย่านม) เช่นการดูลักษณะกายภาพหรือฟันเป็นต้น ขอรบกวนอาจารย์หมอแก้วอย่างสูง ในข้อมูลส่วนนี้ผมต้องการทราบเพื่อให้เป็นแนวทางต่อผู้ที่ถูกหลอก และเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการกันโดนหลอกต่อพี่น้องชาว HL (hedgehog lover) ต่อไป ขอบพระคุณอย่างสูง เอ็ดดี้
เป็นความเจตนาดีของท่านผู้นี้จริงๆ ครับ ดีใจที่ท่านมีเจตนาที่ดี โดยขึ้นหัวข้อแสดงถึงความเป็นตัวท่านเองว่า “ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงเม่นแคระกันอย่างกว้างขวางและมีผู้ที่ขายเม่นในช่วงวัยยังไม่หย่านมแม่กันบ่อยครั้ง สุดท้ายก็ตกมาเป็นปัญหาสำหรับเราชาวคนรักเม่น” ขอให้กลุ่มคนรักเม่นแคระเติบโต และเป็นที่พึ่งของผู้เลี้ยงมือใหม่ มือเก่ากันต่อไปครับ
แม้จะเป็นคำถามสำหรับกลุ่มรักเม่นแคระ แต่ผมก็เห็นว่าเป็นประโยชน์ที่กลุ่มสัตว์อื่นๆ จะนำไปใช้เป็นหลักการ และอนุญาตให้นำบทความที่ท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ ไปเผยแพร่หรือลงในเว็บไซต์ของท่านได้ โดยติดต่อผ่านคุณหมาป่า ผมขออาสาเป็นหมอตอบคำถามเป็นบางข้อ ส่วนบางข้อนั้นจะมีผู้รู้มากกว่ามาตอบ
http://www.epofclinic.com/wizContent.aspwizConID=146&txtmMenu_ID=7
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น